ระทึก ฝูงหมูป่ารุมขย้ำ 3 คนงาน
เมื่อเวลา 11.50 น.วันที่ 6 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่มีครอบครัว 3 คนงาน พ่อ - แม่ -ลูก เดินทางมาจาก อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นายจ้างรับมา รับจ้างหักข้าวโพด ถูกฝูงหมูป่ารวมกว่า 12 ตัวกัด - ขย้ำ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้ง 3 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา รายแรกพ่อ บาดเจ็บเล็กน้อยทำแผลที่ รพ.นาดีเสร็จ แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ได้เดินทางกลับบ้าน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา อีก 2 ราย เข้ารักษาตัวที่รพ. กบินทร์บุรี เป็นแม่ลูกกัน ทั้งหมดมารับจ้างหักข้าวโพดตรงจุดบริเวณเกิดเหตุ ข้างเขาลูกช้าง ,เขาละมั่งอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ซึ่งเจ้าของไร่ข้าวโพดเป็นคน อ.วังน้ำเขียวจ.นครราชสีมา ได้มาเช่าพื้นที่ คนรู้จักกันปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และได้ว่าจ้างบุคคลทั้งสามมาหักข้าวโพดในสวนและถูกหมูป่ารุมกัดตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรีแต่ถูกปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ใดๆจากผู้ได้รับบาดเจ็บ ทางโรงพยาบาลฯ เปิดเผยว่าผู้ป่วยถูกหมูป่ากัดจริงและเข้ารักษาตัวในช่วงบ่ายของวันที่ 4 ที่ผ่านมาทางแพทย์เช็คบาดแผลปรากฏว่ามีบาดแผลถูกกัดจริงและคนไข้ได้ขอตัวกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดบ่ายวานนี้( 5 พ.ย.)
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (6พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติทับลานเพื่อขอพบกับนายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หน.อุทยานฯ แต่หัวหน้าอุทยานติดภารกิจไม่สามารถติดต่อได้ Mr.Wayu @ SpeedMan
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านทับลานได้พบกับนายชำนาญ หรือโข่ง จันทร์สมานผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านทับลาน ต. บุพราหมณ์อ. นาดี จ. ปราจีนบุรี
ผู้ใหญ่ชำนาญกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน ที่ผ่านมามีสัตว์ป่า ช้างและหมีออกมาหากินในพื้นที่รอบบริเวณจุดที่เกิดเหตุ ที่ห่างจากที่ทำกินกว่า 700เมตรเศษ แต่ไม่เคยทำร้ายประชาชนแต่อย่างใด
ครั้งนี้ไม่ทราบว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ เพราะสัญชาตญาณหมูกลัวคน ตกใจอาจจะวิ่งหนีเข้าป่าไปหรืออีกนัยหนึ่งคนกลุ่มนี้มาหักข้าวโพดในบริเวณจุดดังกล่าวไม่ทราบว่า เป็นหมูแม่ลูกอ่อนหรือหมูป่าที่พากันออกมาหากินตรงจุดบริเวณที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมากทั้งฝูง
ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดไม่มีใครรู้เพราะผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ได้บอกรายละเอียด ทตนเองในฐานะผู้นำท้องถิ่น - ผู้ใหญ่บ้านได้ประสานผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเตือนประชาชนที่จะออกไปทำไร่ทำสวนในบริเวณพื้นที่จุดที่เกิดเหตุ ให้ระมัดระวังหมูป่าหรือสัตว์อื่นที่อาจจะทำร้าย เพราะเป็นแหล่งหากินของสัตว์ป่า
เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่เชิงภูเขาซึ่งเป็นเส้นทางหากินของสัตว์ป่าที่หน้าแล้งอาจลงมาหาอาหาร คาดว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด และทุกคนต้องระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตในการที่ออกไปไร่ ไปสวน
นางจันทร์หอม จงเทพ ชาวบ้านหมู่ 1 บ้านทับลาน กล่าวว่า ตนเป็นคนในพื้นที่ออกไปหาของป่าบ่อยครั้งแต่ก็ไม่เคยถูกหมูป่าหรือสัตว์อื่นทำร้าย การที่หมูป่าทำร้ายคนนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าหมูป่าลงมาหากินตามพื้นที่ จุดที่เกิดเหตุอาจจะเจอกันในระยะกระชั้นชิด สัตว์ตกใจคิดว่าคนจะทำร้าย จึงทำร้าย เพราะเป็นสัญชาติญาณของสัตว์ป่าหรืออาจเป็นรังของพวกมัน ที่มีลูกอ่อน จึงหวงลูก